windows ประวัติ คือระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ (ระบบปฏิบัติการ) ที่สร้างโดย Microsoft เนื่องจากความยากลำบากในการใช้ DOS Microsoft จึงได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Windows ซอฟต์แวร์ดูเหมือน GUI (Graphic-User Interface) ในรูปแบบของสัญลักษณ์กราฟิกแทนการป้อนคำสั่งทีละบรรทัด ซึ่งคล้ายกับระบบปฏิบัติการ Macintosh เพื่อให้ DOS ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ Windows ทำงานภายใต้การควบคุมของ DOS อีกครั้ง ดังนั้นจึงไม่ใช่ระบบปฏิบัติการจริงๆ ซึ่งหมายความว่าต้องติดตั้ง DOS ก่อนติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows และผู้ใช้จะสามารถรันคำสั่งที่มีอยู่ใน DOS ผ่าน Windows ได้ Windows ใช้งานง่ายกว่า DOS
ระบบปฏิบัติการ Windows ใช้หลักการแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ เรียกว่า windows ซึ่งแสดงผลของแต่ละโปรแกรม ปัจจุบันมีรูปแบบการผลิตและการจัดจำหน่ายมากมาย เช่น Windows 7, Windows 10 และ Windows 11
windows ประวัติ ระบบ window ที่คนนิยมมากที่สุด
ระบบปฏิบัติการ Windows 7
windows ประวัติ Windows 7 คือระบบปฏิบัติการของ Microsoft เนื่องจากจะวางจำหน่ายในวันที่ 22 ตุลาคม 2552 Windows Vista จึงขายได้ดีมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Windows 7 เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นที่เจ็ดของ Microsoft ) และเวียนนา) เป็นระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่จาก Microsoft หลายท่านอาจสงสัยว่าเลข 7 หมายถึงอะไรและมาจากไหน ตามที่ทีมพัฒนาบล็อกของ Microsoft ระบุว่าหมายเลข 7 คือความต่อเนื่องของเวอร์ชันก่อนหน้า
ระบบปฏิบัติการ windows 10
Windows 10 (Windows 10) เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้กันมากที่สุดจาก Microsoft (Microsoft) และได้รับการออกแบบมาให้เข้ากันได้กับอุปกรณ์ Windows ทุกขนาดหน้าจอ การใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัส จอสัมผัส หรืออุปกรณ์ควบคุม เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด นอกจากนี้ยังมีระบบแอปพลิเคชันสากล (แอปพลิเคชันสากล) ที่ทำให้มีแอปพลิเคชันที่หลากหลายสำหรับอุปกรณ์ Windows 10 ทั้งหมด
ระบบปฏิบัติการ windows 11
ระบบปฏิบัติการ Windows 11 หรือที่เรียกว่า Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการล่าสุดจาก Microsoft (Microsoft) ที่มีรูปลักษณ์ที่ปรับแต่งได้เองที่แตกต่างจากระบบปฏิบัติการรุ่นก่อนๆ เช่น Windows 10 ทั้งการออกแบบ ความสวยงาม สีสัน และอินเทอร์เฟซที่โปร่งใส หนึ่งในแง่มุมที่โดดเด่นที่สุดของ Windows 11 ซึ่งย้อนกลับไปสู่ยุค Windows 7 ที่โค้งมนก็คือการจัดหมวดหมู่ การแบ่งงาน ความบันเทิง หรืออะไรก็ตามที่เราสร้างเองได้เพราะมันแบ่งแยกอย่างชัดเจน ควรตอบความต้องการของคนที่ชอบทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้คุณสามารถจัดระเบียบแต่ละหน้าต่างได้เป็นอย่างดี
ย้อนรอย window ทั้งหมดตั้งแต่อดีต
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2014 Microsoft ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows ยุคใหม่เต็มรูปแบบด้วยการเปิดตัว Windows 10 ซึ่งเป็น Windows เวอร์ชันล่าสุด แต่หลายคนไม่รู้หรือจำได้ว่า Windows แต่ละรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันอย่างไร วันนี้ jar dot com ต้องการพาคุณย้อนเวลากลับไปดู Windows เวอร์ชันที่ยอดเยี่ยมที่คุณหลายคนรู้จักและ Windows ที่คุณบางคนไม่เคยเห็น ไปดูกัน
Windows 1.0
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1985 เป็น Windows รุ่นแรก ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยม โดยแรกเริ่มถูกเรียกว่า Interface Manager แต่สุดท้ายทางไมโครซอฟท์ก็เลือกที่จะใช้ชื่อ Windows แทนเนื่องจากเรียกและจดจำได้ง่ายกว่า
Windows 2.0
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1987 เป็นการนำ Windows 1.0 มาพัฒนาใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นแรก เริ่มมีนักพัฒนาหลายรายพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้บน Windows 2.0
Windows 3.0
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1990 ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของ Windows ที่ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นก่อนหน้าค่อนข้างมาก รองรับ 16 สี อินเทอร์เฟซถูกพัฒนาให้มีสีสันดูน่าใช้งานมากกว่าเดิม และได้ออก Windows 3.1 ตามมาในปี 1992 ที่ทำให้ Windows กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่คนใช้กับแพร่หลายมากที่สุด
Windows NT
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 1993 เป็นรุ่นที่พัฒนามาสำหรับใช้ในกลุ่มองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งในภายหลังได้ออกรุ่นใหม่ ๆ มาในช่วงเดียวกับ Windows สำหรับใช้ในบ้านแต่ละรุ่น
Windows 95
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1995 ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดย Windows 95 รองรับสีแบบ 32 บิต และรองรับ Multitasking อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึั้นมา รวมทั้งการนำเสนอปุ่ม Start และ Taskbar เป็นครั้งแรก
Windows 98
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1998 เป็นรุ่นที่พัฒนามีให้เหมาะกับการใช้ทำงานและใช้เพื่อความบันเทิงในบ้าน อินเทอร์เฟซคล้ายกับ Windows 95 แต่มีสีสันมากกว่าเดิม พร้อมกับการมาครั้งแรกของแถบ Quick Launch สำหรับเปิดโปรแกรมอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปิด Start Menu
Windows 2000 Professional
วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2000 เป็นรุ่นที่พัฒนามาด้วยโค้ดเคอร์เนลเดียวกับ Windows ตระกูล NT ออกแบบมาเพื่อใช้ในกลุ่มองค์กรหรือธุรกิจ มีการพัฒนาให้รองรับระบบเครือข่ายและมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
Windows Me
วางจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายน 2000 ตัวย่อ Me ย่อมาจาก Millennium Edition เป็น Windows สำหรับใช้งานภายในบ้านรุ่นสุดท้ายที่จะใช้โค้ดเคอร์เนลแบบเดียวกับ Windows 95 และ 98 ในการพัฒนา มีการพัฒนาให้รองรับสื่อบันเทิงต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้รับความนิยมมากเท่า Windows 98
Windows XP
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2001 เป็น Windows รุ่นที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด เนื่องจากอินเทอร์เฟซที่ถูกพัฒนาให้สวยงามกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด ปุ่ม Start สีเขียว Taskbar สีฟ้าสดใส พร้อมทั้งระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย สามารถอัพเดทตัวเองได้ มีโปรแกรมรองรับมาก โดย Windows XP เป็นรุ่นที่แรกใช้โค้ดเคอร์เนลตระกูล NT พัฒนาออกมาทั้งรุ่น Home Edition สำหรับใช้ในบ้าน และ Professional สำหรับใช้ในธุรกิจ และออกเวอร์ชั่น 64 บิต ตามมาในปี 2005
Windows Vista
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2007 อินเทอร์เฟซที่ถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเน้นไปที่หน้าต่างแบบกึ่งโปร่งใส มองเห็นทะลุได้ ดูคล้ายกระจก ปุ่ม Start ถูกเป็นเปลี่ยนลูกแก้วโลโก้ Windows พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพด้านรักษาความปลอดภัยมากกว่าเดิม แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ Windows XP
Windows 8
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2012 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อินเทอร์เฟซถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบเรียบสไตล์ Metro ปุ่ม Start และ Start Menu หายไป แทนที่ด้วย Start Screen แบบเต็มจอ การใช้งานถูกแบ่งออกเป็นโหมด Desktop ปกติเหมือน Windows รุ่นก่อน ๆ กับโหมด Metro สำหรับใช้งานแอพพลิเคชั่นบน Windows Store แบบเต็มจอ รองรับการใช้งานระบบสัมผัสเต็มรูปแบบ มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกใจกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและเลือกที่จะใช้ Windows 7 ต่อไป โดยในปี 2013 ไมโครซอฟท์ได้ออก Windows 8.1 ที่นำปุ่ม Start กลับมา พร้อมทั้งปรับปรุงระบบอีกเล็กน้อย
ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นระบบที่ทันสมัยและสวยงามสำหรับผู้ที่ใช้แอปพลิเคชันของ Microsoft อยู่แล้ว ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและใช้งานหน้าจอ หากคุณไม่ได้เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows 11 ปัจจุบัน คุณอาจไม่ต้องรีบอัปเดตเป็น Windows 11 เพราะมันขาดคุณสมบัติต่างๆ ฉันทำได้’ ที ยังมีเรื่องน่ารำคาญอยู่บ้าง เช่น การเชื่อมต่อ Wi-Fi ลดลงกะทันหันและต้องเชื่อมต่อใหม่ ใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่นั่นทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย และหากคุณละเว้นปัญหาอินเทอร์เฟซ เนื้อหาของ Windows 11 ก็คือ Windows 10